พร้อมกัน ณ. จุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก พร้อมบริการอาหารเช้า ข้าวเหนียวหมูทอด นำคณะออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.เพชรบูรณ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง)

รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

นำคณะเดินทางสู่ จุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ เป็นอีกจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ซึ่งอยู่ท่ามกลางขุนเขาต่างๆ เป็นอีกแลนด์มาร์คที่เรียกได้ว่าต้องมาเช็คอิน สำหรับใครที่เป็นสายล่าหมอก ต้องไม่พลาดที่นี่เป็นอันขาด นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ยังมีที่ให้เดินเที่ยวถ่ายรูป มีสวนสตรอเบอรี่ และจุดกางเต็นท์หลายจุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาชมภาพทะเลหมอกในตอนเช้าตรู่อีกด้วย นำคณะสู่พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก เป็นเจดีย์ที่สวยงามมีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐิของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย ทั้งประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวจึงนิยมไปกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล

ทุ่งกังหันลม อีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งเขาค้อที่สวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านเพชรดำ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเข้ามาในบริเวณแคมป์สนเพื่อไปยังเส้นทางท่องเที่ยวหลักบนเขาค้อ จะสามารถมองเห็นกำหันลมโดดเด่นได้อย่างง่ายได้ เนื่องจากจุดที่ตั้งของโครงการทุ่งกังหันลม อยู่บนเนินเขาสูง บนระดับความสูงกว่าน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร ตระหง่านบนที่ราบยอดเขาเนื้อที่ 350 ไร่ จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล ทั้งยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เล่น อย่างการนั่งรถล้อเลื่อน “ฟอร์มูล่าม้ง” ไถลลงเนินมาเรื่อยๆ สร้างความตื่นเต้นเร้าใจเป็นที่สุด หรือจะนั่งชิงช้าชาวเขาสุดหวาดเสียว มีทั้งชิงช้าไม้หมุนและแบบเชือกเส้นเดียว และสามารถแวะชิม สตรอเบอร์รี่สดๆ จากไร่สตรอเบอรี่ และสามารถเลือกใช้บริการรถรางของทางโครงการ โดยมีค่าบริการโดยประมาณ ท่านละ 40 บาท (ใช้วลาประมาณไม่เกิน 30 นาทีต่อรอบ) ทั้งนี้หากท่านใดสนใจสามารถแจ้งไกด์เพื่อตรวจสอบรอบหรือราคาที่แน่นอนอีกครั้ง และในแต่ละวันบางครั้งอาจมีหรือไม่มีให้บริการขึ้นอยู่กับทางโครงการเป็นผู้กำหนด (ไม่รวมค่านั่งรถรางประมาณ 40 บาท และ ฟอร์มูล่าม้ง ประมาณ 50 บาท)

จุดชมวิวคิงคอง เขาค้อ เป็นจุดชมวิวที่มีหุ่นฟางคิงคองยักษ์ขนาดใหญ่ ทางเดินลอยฟ้าไปยังลานระเบียงชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของเขาค้อได้แบบพาโนราม่า นอกจากนี้ภายในพื้นที่ของจุดชมวิวยังมีมุมถ่ายภาพที่น่ารักมากมาย ทั้งแปลชิงช้า รูปปั้นยอดมนุษย์ต่าง และมุมของดอกไม้เมืองหนาวและดอกหญ้าพริ้วไหวรวมทั้งที่พักแบบกระโจมเต้นท์วิวดีริมภูเขา รวมทั้ง ร้านกาแฟ คอยให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

นำคณะเข้าที่พัก ณ เขาค้อ รีสอร์ท

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

เดอะบลูสกาย การ์เด้นท์ สวนดอกไม้สไตล์อังกฤษท่ามกลางขุนเขา ตั้งอยู่ในพื้นที่ของบลูสกายรีสอร์ท เขาค้อ อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดฮิต สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสวนสวย อยากหามุมถ่ายภาพหวานสไตล์เจ้าหญิง เคียงคู่ดอกไม้และดอกหญ้าพริ้วไหว แถมช่วงไหนฝนตกจะได้พบกับสายหมอกบางได้บรรยากาศโรแมนติกชวนฝันเป็นอย่างมาก

นำคณะสู่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว นอกจาก ทะเลหมอก คาเฟ่ และรีสอร์ทสวยๆ ที่ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนกับสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ที่เขาค้อยังมีวัดสวยๆ ที่น่าไปเที่ยวอีกด้วย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง เขาค้อ เป็นสถานปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ให้ได้มาพักกายพักใจในที่ซึ่งรายล้อมไปด้วยหุบเขาที่แสนสงบเงียบในอากาศเย็นสบาย ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้อีกด้วย แต่ต้องเป็นไปตามกฎของวัดในเรื่องของการแต่งกาย และห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้มาปฏิบัติธรรม แวะร้านกาแฟ Pino Latte พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศอันแสนงดงาม

นำคณะสู่ร้านอาหารใหญ่มีโต๊ะนั่งในร้าน และระเบียงชมวิวนอกร้าน รองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก "โรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า" ตั้งอยู่ติดกับผาซ่อนแก้ว บนภูเขาสูงใกล้วัดผาซ่อนแก้ว มีวิวมุมสูงที่สามารถเห็นภูเขาสลับซับซ้อนได้สวยงาม ภายในร้านบรรยากาศค่อนข้างโล่งสบาย ตกแต่งสไตล์โรงเตี๊ยมจีน หลังคาสูงโปร่ง มีโต๊ะที่นั่งจำนวนมาก ไม่อึดอัด

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร

พระธาตุศรีสองรัก สร้างขึ้นถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (หมายถึงเจดีย์สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศให้พระศาสนา โดยไม่กำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ.2106 พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และร่วมกันต่อสู่กับพม่า ระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุศรีสองรัก ได้สร้างขึ้น ณ ที่กึ่งกลางระหว่างลำน้ำโขงกับแม่น้ำน่าน บนโคกไม้ติดกัน

วัดเนรมิตวิปัสสนา แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ห่างจากตัวอำเภอด่านซ้ายไปประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างด้วยการก่อสร้างจากศิลาแลง เป็นเอกลักษณ์ต่างจากวัดอื่นๆ วัดก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2521 โดย พระครูภาวนา วิสุทธิญาณ หรือ หลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุมโธ เจ้าอาวาสรูปแรก โดยหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุมโธ ได้เลือกเอาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ถูกชาวบ้านบุกรุกสร้างไร่จนพื้นที่โล่งเตียน มาปรับพื้นที่สร้างวัดขึ้นในปี พ.ศ.2529 ใช้เวลาก่อสร้าง 14 ปี จึงแล้วเสร็จ ต่อมาในปี พ.ศ.2549 วัดหัวนายูง แห่งนี้จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดเนรมิตวิปัสสนา

ถนนคนเดินเชียงคาน ให้ท่านเดินเล่นชิวๆ ช้อป ชิม ให้อร่อยตลอดเส้นทางถนน ให้ทุกท่านเพลินเพลิดกับวิถีสโลว์ไลฟ์

รับประทานอาหารเย็น อิสระตามอัธยาศัย

นำคณะเข้าที่พัก ณ โรงแรมเชียงคานฮิลล์รีสอร์ท