ทัวร์อินเดีย รัฐราชาสถาน เต็มอิ่ม7วัน 5 คืน เยือนแผ่นดินมหาราช ดินแดนฟ้าจรดทราย โดยสายการบิน THAI

แสดงข้อมูลราคาทัวร์

วันเดินทาง 0 - 0 3
ผู้ใหญ่ (บาท/ท่าน) เด็ก (บาท/ท่าน)
พักคู่ 0 เด็ก 0
พักเดียว 0 มีเตียง 0
พักสาม 0 ไม่มีเตียง 0

ไฮไลท์โปรแกรมทัวร์

Day Highlight Meal Hotel
* หรือเทียบเท่า
B L D
1 นครสีชมพู
Ramada Jaipur
2 แอมเบอร์ฟอร์ท,พระราชวัง ซิตี้พาเลซ
Hotel Vesta Bikaner
3 เมืองบิคาเนอร์,เมืองจัยแซลเมียร์
Hotel Desert Palace Jaisalmer
4 เมืองจ๊อดปูร์,รานัคปูร์
Zone by the Park Jodhpur
5 อุไดปูร์,วัดจักดิศ
Radisson Udaipur
6 สวนราชินี
7 เดินทางกลับกรุงเทพฯ

โปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยว

DAY
1
นครสีชมพู
04:30
คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 ประตู 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
07:35
ออกเดินทางจากสู่ เดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 323 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
10:35
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ…รอต่อเครื่องบินในประเทศ (เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง )
13:05
ออกเดินทางจากสู่ ชัยปุระ โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบิน 6E 2204
13:45
เดินทางถึง ท่าอากาศยานเมืองชัยปุระ เมืองหลวงของรัฐราชสถาน ก่อตั้งเมื่อ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1727 โดยมหาราชาสวาอี ชัยสิงห์ที่ 2 เจ้าครองนครอาเมร์ (Amer) ในปัจจุบันชัยปุระยังเป็นที่รู้จักกันดีในอินเดียว่า "นครสีชมพู" สาเหตุเนื่องมาจาก ในปี ค.ศ. 1876 ในรัชสมัยของมหาราชาสวาอี ราม สิงห์ (Sawai Ram Singh) ได้มีพระบัญชาให้ทาสีอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ในเมืองเป็นสีชมพูเพื่อเป็นการต้อนรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ในคราที่เสด็จเยือนชัยปุระอย่างเป็นทางการ ซึ่งสีชมพูนั้นก็ยังคงไว้จนถึงปัจจุบันและได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของชัยปุระจนทุกวันนี้ นำท่านไปจุดเช็คอินสุดชิค ประตูปาตริก้า (Patrika gate) ประตูเมืองลำดับที่ 9 ของนครชัยปุระ ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนจาวาฮาร์ (JawaharCircle) ประตูสีพาสเทลสดใส สะบัดส่าหรีกันอให้เต็มที่รับรองรูปออกมาปังแน่นอน! นำท่านชม บ่อน้ำขั้นบันได พานนา มีนา กา คุนด์ (Panna Meena Ka Kund) หรือ บ่อน้ำโบราณแบบขั้นบันไดใจกลางเมือง ตั้งอยู่ใกล้กับแอมเบอร์ฟอร์ต ออกแบบเป็นแนวทแยงแปดชั้นจากปากบ่อลงไปด้านล่างก้นบ่อนับเป็นสถาปัตยกรรมสวยงาม ที่เป็นเสมือนอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของ นครชัยปุระแห่งนี้ อุ่นเครื่องก่อนเริ่มทริปที่ ตลาดฮาวามาฮาล (Hawa Mahal Bazaar) มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือเครื่องประดับหลากหลากหลายแบบ ได้ตามอัธยาศัย หรือจะไปคาเฟ่เก๋ๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวฮาวามาฮาลแบบสุดปังก็ยังได้ แล้วมาต่อราคาอย่างสนุกสนานที่ ตลาดบาปูร์ กับพ่อค้าอินเดียก็ยังได้
บ่าย
นำท่านเช็คอิน สัญลักษณ์เมืองชัยปุระพระราชวังแห่งสายลม (Hawa Mahal) ถ่ายรูปด้านนอกเท่านั้น หนึ่งในหลายพระราชวังที่อยู่ในกำแพงเมืองของนครสีชมพูแห่งนี้ พระราชวังสายลมเคยเป็นฮาเร็มของมหาราชา มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายออกแดง รูปแบบของสถาปัตยกรรม สไตล์เปอร์เซียกับโมกุล ที่สวยเด่นคือลวดลายฉลุหินตามหน้าต่าง ช่องระบายอากาศที่บรรดา นางสนมในวังใช้เป็นที่แอบดูชีวิต ความเป็นอยู่ของสามัญชนทั่วไปด้านนอก และประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมมีช่องหน้าต่าง จำนวนมากถึง 152 ช่อง เลยทีเดียว
เย็น
บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม/ภัตตาคาร
ค่ำ
Ramada Jaipur หรือเทียบเท่า
DAY
2
แอมเบอร์ฟอร์ท,พระราชวัง ซิตี้พาเลซ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เช้า
นำท่านไป แอมเบอร์ฟอร์ท (Amber fort) ไฮไลท์นั่งช้างขึ้นชมพระราชวัง เดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระ สร้างที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าในศตวรรษที่ 11 สร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ ใน ปี ค.ศ. 1592 และเสร็จสิ้นในสมัยของมหาราชาใจสิงห์ ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต (Rajput) นอกจากนี้ในสมัยก่อนด้านล่างของป้อมยังเป็นทะเลสาบ จึงเป็นปราการสำคัญเพื่อป้องกันข้าศึกได้อีกชั้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของราชวงศ์กาญจวาหาอยู่หลายร้อยปี ก่อนมหาราชาสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 จะตัดสินใจย้ายลงไปสร้างเมืองใหม่ยังชัยปุระ....ภายในพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท ประกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างในสมัยของมหาราชามาน ซิงห์ (Maharaja Man Singh) ในปี ค.ศ. 1592 และได้มีการขยายต่อเติมโดยมหาราชาองค์ต่อๆมา ช่วงนั้นจักรวรรดิโมกุลเข้ามามีอิทธิพลในดินแดนนี้จึงทำให้รูปแบบสถาปัตยกรรมภายในเป็นการผสมผสานระหว่างราชปุต กับโมกุล..ได้เวลาอันสมควรนำท่านนั่งรถจี๊บกลับไปที่รถ
เช้า
แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ จาลมาฮาล (Jal Mahal) หรือพระราชวังสายน้ำ (Water Palace) ซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา (Man Sagar) โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกต่อเติมและปรับปรุงโดยมหาราชาสะหวายจัยสิงห์ที่ 2 ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุลซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งก่อสร้างในรัฐราชสถาน โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทราย ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้นซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด โดยเหลือเพียงชั้นบนสุดซึ่งจะเผยขึ้นมาเหนือน้ำเท่านั้น
เช้า
เข้าชมพระราชวังหลวงหรือพระราชวังซิตี้พาเลซ (City Palace) พระราชวังอันเป็นที่ประทับของมหาราชาแห่งชัยปุระ สร้างขึ้นในสมัยมหาราชาไสวจัยซิงห์ที่ 2 จากนั้นก็ได้รับการดูแลต่อเติมโดยมหาราชาของชัยปุระรุ่นต่อๆมา โดยสถาปัตยกรรมได้รับการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบ ราชปุตกับโมกุล โดยซิตี้พาเลซได้เปิดให้เข้าชมในนามของพิพิธภัณฑ์ไสวมานซิงห์ ภายในเขตพระราชฐานมีศาลาว่าราชการที่มหาราชาใช้ปรึกษางานกับข้าราชบริพาร ตั้งอยู่กลางผังพระราชวังและเหยือกเงิน (Silver Urms) แท้ๆ 2 ใบของมหาราชามัดโฮซิงห์ที่ 2 (Maharaja Madho Singh II) ซึ่งเหยือกสีเงินนี้จะวางอยู่ของประตูทางเข้า เหยือกนี้มีความสูงถึง 1.6 เมตร บรรจุน้ำได้ 900 ลิตร ในอดีตเคยถูกใช้บรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาเพื่อนำไปใช้ในพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7
เช้า
นำท่านชม หอดูดาวจันทรามันตรา (Jantar Mantar observatory) อนุสรณ์สถานทางด้านดาราศาสตร์ที่สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ใกสร้างโดยมหาราชา ไสว สิงห์ที่ 2 (ค.ศ.1699 – 1743) ผู้มีความสามารถทางด้านดาราศาสตร์แห่งราชวงศ์โมกุล หอดูดาวจันทรามันตราเป็นหอดูดาวแห่งแรกและเป็น 1 ใน 5 หอดูดาวที่ทรงสร้างขึ้น มีสภาพสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ที่สุด หอดูดาวอีก 4 แห่งถูกสร้างขึ้นใน เมืองต่างๆ ดังนี้ กรุงนิวเดลี (Delhi) เมืองอุชเชน (Ujjain) เมืองพาราณสี (Varanasi) และ เมืองมธุรา (Matura) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก Private Rooms at the City Palace, Jaipur Private Zone พระราชวังส่วนในของมหาราชา ***โซนพิเศษราคาประมาณ 3500-4000 รูปี ไม่รวมในค่าทัวร์ โปรดเชคกับหัวหน้าทัวร์อีกครั้ง***
บ่าย
บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม/ภัตตาคาร
บ่าย
ออกเดินทางสู่ เมืองบิคาเนอร์ ระยะทาง 340 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง“เมืองบิคาเนอร์” Bikaner ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายธาร์เป็น “สวรรค์ทางวัฒนธรรมและสวรรค์ของนักท่องเที่ยว” บิคาเนอร์ มีความงดงามในด้านสถาปัตยกรรมศิลปะและวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสีสันการเฉลิมฉลองและความมหัศจรรย์ทางวัฒนธรรมเมืองนี้จะนักท่องเที่ยวหลงใหลกับอูฐที่ล้อมรอบเนินทรายที่สวยงามพระราชวังและป้อมโบราณ ถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรทะเลทรายที่ยิ่งใหญ่ของรัฐราชสถานเมืองที่พรั่งพร้อมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของโลกเก่า และแสดงให้เห็นถึงยุคสมัยแห่งราชปุตที่มั่งคั่ง...ชมวิวระหว่างสองข้างทางจนถึงจุดหมาย
เย็น
บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ค่ำ
Hotel Vesta Bikaner หรือเทียบเท่า
DAY
3
เมืองบิคาเนอร์,เมืองจัยแซลเมียร์
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เช้า
นำท่านชมเมืองบิคาเนอร์เมืองนี้ก่อตั้งในปี 1488 โดยเจ้าชายแห่ง Rathore คือเจ้าชาย Rao Bikaji พระโอรสของมหาราชา Rao Jodhaji ผู้ก่อตั้งเมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) ด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันนักกับพระบิดา จึงทำให้เจ้าชาย Rao Bikaji ออกไปสร้างอาณาจักรใหม่ของตนเองให้ห่างจากเมือง Jodhpur พระองค์ได้แปลงพื้นที่รกร้างว่างเปล่าขนาดใหญ่ที่ยังไม่มีผู้คนไปอยู่อาศัยทางเหนือของจ๊อดปูร์ให้เป็นเมืองบิคาเนอร์ที่เรารูจักกันในปัจจุบัน เมืองที่เปี่ยมสีสันแห่งนี้โอบล้อมด้วยกำแพงยาว 7 กิโลเมตร โดยมีประตูทางเข้า 5 ประตู และเป็นที่ตั้งของป้อมปราการมากมาย รวมถึงวัด และเทวาลัยจำนวนมาก บิคาเนอร์ในปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สี่ของรัฐราชาสถาน แม้ว่าจะอยู่ในทะเลทรายธาร์ แต่เมืองบิคาเนอร์ถือเป็นโอเอซิสบนเส้นทางการค้าระหว่างเอเชียกลางและชายฝั่งคุชราต นำท่านชมป้อมสีแดงแห่งเมืองบิคาเนอร์ หรือป้อมจูนนาการ์ (Junagarh Fort) วังมหาราชาที่อยู่ในสภาพดีสุดแห่งหนึ่งในราชาสถาน สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1588 ถูกสร้างขึ้นโดยราชปุต Rao Bika ด้วยการต่อสู้กับชนพื้นเมืองจนสามารถตั้งถิ่นฐานได้ แม้ผ่านการรุกรานจากมหาโมกุลหลายครั้งแต่ทะเลทรายที่อยู่รอบด้านรวมทั้งความกล้าหาญของนักรบ ช่วยให้เมืองอยู่รอดเสมอมา ภายในป้อมใหญ่แบ่งเป็นหลายส่วน เช่น Chandra Mahal, Phool Mahal, Karan Mahal และ Anoop Mahal
เช้า
นำท่าน นั่งรถตุ๊กตุ๊กชมย่านเมืองเก่าเมืองบิคาเนอร์ ชม รัมปูเรียฮาเวลี (Rampuria Haveli) คฤหาสน์สุดหรู 7 หลัง ของท่านเศรษฐีบิคาเนอร์ สร้างขึ้นต้ังแต่ช่วงปี ค.ศ. 1400 มีการใช้หินทรายแดงในการสร้างคฤหาสน์ทุกหลัง แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจง ตกแต่งด้วยไม้เนื้อดี มีการผสมผสานงานศิลปะแบบโมกุล วิคตอเรียนและราชปุตได้ อย่างลงตัวถ่ายรูปลงอวดเพื่อนๆโซเชียลรับรองว่าปัง !
บ่าย
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
เดินทางสู่ เมืองจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer) ระยะทาง 330 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง “จัยแซลเมียร์” คือเมืองที่ได้รับสมญานามว่า “นครสีทอง” หรือ ณ ที่ฟ้าจรดทราย อยู่บนที่ราบสูงทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) อันยิ่งใหญ่ของอินเดีย เป็นเมืองตั้งอยู่บนที่ราบสูงกลาง ที่ราบทะเลทรายธาร์ มีกำแพงสูงใหญ่ดูโอฬาร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคว้นราชาสถาน ในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าที่ สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลาง นครแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ เมื่อยามต้องแสงอาทิตย์อัสดงที่ไล้ลงบนพื้นผิวของหินเหล่านี้ ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นสีทองอร่ามตา และนี่คือที่มาของสมญา “นครสีทอง” ด้วยเหตุที่จัยแซลเมียร์เคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ส่งผลให้พ่อค้าวาณิชย์ในตระกูลดังๆ หลายๆคนร่ำรวยกันอย่างมหาศาล กลายเป็นอภิมหาเศรษฐี มีคฤหาสน์ที่ใหญ่โตมโหฬาร . ถึง..เมืองจัยแซลเมียร์ นำท่านเข้าสู่ที่พักเก็บสัมภาระ..
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) ทะเลทรายขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดียและปากีสถาน มีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตร.กม. ถือเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ทะเลทรายมากกว่าร้อยละ 60 ตั้งอยู่ในรัฐราชสถาน ส่วนที่เหลือกระจายไปในรัฐคุชราต, รัฐปัญจาบ และรัฐหรยาณา และส่วนที่กระจายในปากีสถานอยู่ในแคว้นสินธ์ และแคว้นปัญจาบทะเลทรายล้อมรอบด้วยทิวเขาอะราวัลลีทางด้านตะวันออก แม่น้ำคงคาทางด้านตะวันตก แม่น้ำสัตเลชทางด้านเหนือและทะเลอาหรับทางด้านใต้ พิเศษ ขี่อูฐท่องทะเลทรายธาร์ ชมสันทราย Sam Sand Dunes เป็นที่ซึ่งโค้งขอบฟ้าจรดกับผืนแผ่นทรายได้อย่างงดงามเกินคำบรรยาย...ชมพระอาทิตย์ตกดินแสงอาทิตย์ทาสีทรายสีเหลืองตรงหน้าเป็นสีทอง ที่นี่สัมผัสได้ถึงวิวทะเลทรายที่แท้จริง อิสระให้ท่านเก้บภาพความประทับใจ ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ล้วนเต็มไปด้วยความน่าหลงใหลชมพระอาทิตย์อัสดง...ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่แคมป์เพื่อรับประทานอาหารกลางทะเลทรายพร้อมชมโชวร์พื้นเมืองราชาสถาน และการร่ายรำของชาวทะเลทรายธาร์
เย็น
บริการอาหารค่ำ พร้อมชมโชวร์ พิเศษ!! ชมโชว์การเต้นระบำราชาสถานอันเป็นเอกลักษณ์
ค่ำ
Hotel Desert Palace Jaisalmer หรือเทียบเท่า
DAY
4
เมืองจ๊อดปูร์,รานัคปูร์
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เช้า
นำท่านชมเมือง “จัยซัลเมียร์”ความเชื่อหนึ่งที่คนจัยซัลเมียร์เชื่อถือเกี่ยวกับมหาราชาของพวกเขา คือ ราชบุตรแห่งจัยซัลเมียร์ สืบเชื้อสายมาจากพระกฤษณะ และจัยซัลเมียร์ เป็นเมืองที่ค่อนข้างแห้งแล้ง สร้างอาณาจักร โดย ราว จัยซาล (Rao Jaisal) เมื่อปีค.ศ.1156นำท่านชม สวนบาดาบาค (Bada Bagh) แปลว่า
เช้า
นำท่าน ทะเลสาบกาดซิซาร์ (Gadsisar Lake) โอเอซิสขนาดมหึมาท่ามกลางทะเลที่สร้างโดยมหาราชาวาลกาดซี ราว ค.ศ.ที่ 14 ซึ่งทะเลสาบนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมืองจัยแซลเมียร์ รอบๆทะเลสาบจะมีวัดและอนุสรณ์สถานเล็กๆ สีเหลืองทองอร่าม และใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณี “กานกัวร์” (Gangaur) โดยมีมหาราวัลของจัยแซลเมียร์เป็นผู้ทำนำพิธีด้วยตัวเอง ซึ่งประเพณีนี้หญิงโสดจะโยนดอกไม้ลงไปในทะเลสาบและอธิษฐานขอคู่ชีวิตที่ดีๆ
เช้า
นำท่านชมแลนด์มาร์ค ป้อมปราการจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย สร้างโดย Bhatti Rajput rule Rawal Jaisal ค.ศ. 1156 โดยป้อมนี้ถือว่าเป็นป้อมที่สร้างลำดับที่ 2 ของรัฐราชสถานรอบๆ ป้อมจัยแซลเมียร์มีหอรบถึง 99 หอ โดยศัตรูหลักของเมืองนี้คือ บรรดาเจ้าราชปุตของนครต่าง ๆ รวมถึงจักรพรรดิอัคบาร์แห่งโมกุล ซึ่งต่อมากลายเป็นเขยของเมืองนี้ไปในที่สุด ปัจจุบัน ป้อมจัยแซลเมียร์เป็นป้อมเดียวในอินเดียที่มีผู้คนอาศัยอยู่ด้านบนบนเขาทิตรีกูฏชมความสวยงามของ “ปราสาททราย” ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางทะเลทรายภายในป้อมมีบ้านพักของชาวบ้านที่พำนักอยู่อาศัยมานานนับร้อยปีท่านจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองจัยแซลเมียร์ จากนั้นนำชมความงามของคฤหาสน์
เช้า
ชมคฤหาสน์เสนาบดี หรือ ฮาเวลี (Haveli) ฮาเวลีแบบจัยซัลเมียร์ สร้างโดยที่เจ้าของจะต้องมีเงินทองมากมายจึงจะทุ่มเงินสร้างคฤหาสน์ไว้อยู่อาศัยได้ แต่นอกจากความใหญ่โตแล้ว ฮาเวลีของเมืองจัยแซลเมียร์นั้น มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่เหมือนเมืองอื่นๆ คือเป็นคฤหาสน์ที่สร้างจากหินทรายสีทอง ส่วนอาคารชั้นล่างยกสูงจากพื้นเพื่อป้องกันฝุ่นจากทะเลทราย
เช้า
ชมคฤหาสน์ Nathmal Ji Ki Haveli ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง มีชื่อเสียงในด้านรูปแบบสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการออกแบบราชปุตและโมกุล คฤหาสน์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของ Diwan Mohata Nathmal ส่วนหน้าอาคารที่สวยงามได้รับการออกแบบเป็นรูปนก ช้าง ดอกไม้ จักรยาน รถจักรไอน้ำและทหาร
เที่ยง:
บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) โยธาปุระ เมืองสีฟ้า ระยะทางประมาณ 290 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง “เมืองจ๊อดปูร์” เมืองที่ได้ฉายาว่าเมืองแห่งความตายเพราะอยู่กลางทะเลทรายธาร์ในอดีต เมืองสีน้ำเงินจ๊อดปูร์ Jodhpur หรือ เมืองโยธะปุระ ในปัจจบันเป็นเมืองโรแมนติกหรือเมือง โยธะปุระ นครนักรบ ทั่วทั้งเมืองเป็นสีฟ้าน้ำทะเล ใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน ตั้งโดยสร้างโดย มหาราชา ราโอ จอดา (Rao Jodha) แห่งราชวงศ์ Rathorถือเป็นเมืองเก่าแก่ของพวกราชบุตรเป็นต้นกำเนิดของอีกหลายราชวงศ์เช่นราชาแห่งบิคาเนอร์ก็เคยเป็นเจ้าชายแห่งจ๊อดปูร์ความเก่าทำให้เมืองนี้มีมนต์ขลังเป็นศูนย์กลางของราชาสถานตั้งแต่อดีตกาลนานหลายร้อยปี สีน้ำเงินหรือสีฟ้านี่เป็นสีของวรรณะพราหมณ์แล้วเมืองนี้ก็มีคนวรรณะนี้มาก บ้านเรือนเลยทาสีน้ำเงินทั้งเมือง กับเหตุผลที่ 2ก็คือ เพราะความที่อยู่กลางทะเลทรายธาร์ที่ร้อนและแห้งแล้ง การทาบ้านเรือนสีฟ้าหรือสีน้ำเงินจะทำให้ดูสบายตาและเย็นใจมากขึ้น ถึงเมือง จ๊อดปูร์ ท่านช้อปปิ้งที่ร้าน Maharani Textiles & Handicrafts มีให้เลือกซื้อทั้งของสะสมโบราณ เสื้อผ้า ผ้า พรมและอื่นๆอีกมากมายในราคาสมเหตุสมผล ..ได้เวลาอันสมควรเข้าสู่ที่พัก
เย็น
บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม พักผ่อนตามอัธยศัย
ค่ำ
Zone by the Park Jodhpur หรือเทียบเท่า
DAY
5
อุไดปูร์,วัดจักดิศ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เช้า
นำท่านชม เมืองจ๊อดปูร์นครสีฟ้าแห่งราชาสถาน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของรัฐราชาสถาน รองจาก ชัยปุระ หรือ จัยปูร์ เมืองสีชมพู เมืองแห่งสีฟ้า ฉายานี้ได้มาเพราะว่า คนทั้งเมืองได้พร้อมอกพร้อมใจกันทาสีบ้านด้วยสีฟ้ากันแทบจะทุกหลัง สีฟ้าเป็นสีของพราหมณ์ และ การทาสีฟ้าจะช่วยให้บ้านเย็นลงและไล่แมลงได้ด้วย นำท่านนั่งตุ๊กตุ๊กชมเมืองจ๊อดปูร์ ถ่ายรูปกับอาคารบ้านเรือนสีฟ้าหลากหลายเฉดทั้งฟ้าแลน้ำเงิน ไม่ต้องไปไกลถึงโมร็อกโก พาท่านชม อนุสรณ์สถานจาสวานต์ธาดา (Jaswant Thada) สิ่งปลูกสร้างสีขาวสะอาดตาที่ สร้างด้วยหินอ่อนหลังคาทรงปรางค์ปราสาทประดับโดยหินอ่อน ตั้งอยู่ห่างจากป้อมเมหุ์รานการห์ไปประมาณ 1 กิโลเมตร อนุสรณ์นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1899 เพื่ออุทิศให้กับมหาราชาจัสวันต์ ซิงห์ที่ 2 (Maharaja Jaswant Singh II) หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว 4 ปี โดยเป็นมหาราชาที่ได้การนับถือจากประชาชนมากมาย เป็นทั้งผู้ริเริ่มโครงการชลประทาน จัสวันต์ธาดาสร้างจากหินอ่อนจากแหล่งเดียวกับที่นำไปสร้างทัชมาฮาล
เช้า
นำท่านชม ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort ) ป้อมนี้เป็นป้อมโบราณที่มีความยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งในสี่ของพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ใน ค.ศ. 1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกว่ามหาราชาจ๊อดธะ พระองค์ควรสร้างเมืองขึ้นที่นี่ จ๊อดปูร์เป็นศูนย์กลางอาณาจักรใหญ่แต่ครั้งโบราณ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งให้มีขนาดใหญ่มหึมา ป้อมโบราณที่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ภายในยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Batman The dark knight rises (2012) อีกด้วย ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ควรพลาด พระตำหนักพูลมาฮาล (Phool Mahal) หรือ พระตำหนักแห่งมวลดอกไม้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1724 โดยได้รับการยกย่องว่าสวยงามและละเอียดอ่อนที่สุดในบรรดาตำหนักทั้งหมดที่อยู่ภายในป้อม ภาพวาดที่ผนังและเพดานเป็นผลงานของศิลปินเพียงท่านเดียว ส่วนใหญ่เป็นภาพวาดลายดอกไม้และเถาไม้ประดับจำนวนมาก โดยเรียกการวาดภาพแบบนี้ว่า รักมาลา (Ragmala Painting) จุดประสงค์ของห้องนี้ใช้เพื่อความสำราญ ฟังดนตรีและชมการเต้นรำ ลานราชาภิเษก (Coronation Courtyard) ที่้เรียกชื่อนี้เพราะมีบัลลังก์แกะสลักด้วยหินอ่อน ซึ่งเป็นที่ประทับของมหาราชาแห่งจ๊อดปูร์ในวันที่ได้รับการสถาปนาให้ปกครองเมืองแต่ละยุคตั้งอยู่ ตำหนักจันกิมาฮาล (Jhanki Mahal) ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์เปลเด็ก ซึ่งงดงามมีเอกลักษณ์สมกับเป็นเครื่องใช้ของเชื้อพระวงศ์พิพิธภัณฑ์ล้ำค่า เป็นพิพิธภัณฑ์เสลี่ยงหรือปัลกิกานา เป็นเสลี่ยงโบราณสวยงามและหาชมได้ยาก และยังมีห้องแสดงประทุนหลังช้าง ของมหาราชายุคต่างๆ มีส่วนที่ใช้แสดงอาวุธต่างๆ ที่ใช้ในอดีตสำหรับสู้รบ พระตำหนักโมติมาฮาล (Moti Mahal) หรือพระตำหนักไข่มุก จุดเด่นอยู่ที่การนำเปลือกหอยมุกมาบด ก่อนนำไปผสมปูนแล้วฉาบลงบนผนังห้อง ทำให้เวลาค่ำคืนจุดเทียนผนังห้องจะดูแวววาว ส่วนเพดานใช้กระจกเป็นสีๆ จุดประสงค์ของห้องนี้เพื่อใช้ในการหารือราชการกับข้าราชบริพารระดับสูง ตากัตวิลลา (Takhat Villa) เป็นห้องนอนหรูหราอลังการ ของมหาราชาตากัต ซิงห์ (Maharaja Takhat Singh) ที่ห้องมีความแปลกคือเพดานมีการประดับประดาด้วยลูกบอลคล้ายลูกบอลคริสต์มาส แวะถ่ายรูป (ด้านนอก) พระราชวังอุเมดภวัน(Umaid Bhawan Palace) พระราชวังหินทรายสีเหลืองอันยิ่งใหญ่แห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2471-2486 บนสวนขนาด 26 เอเคอร์ จึงเป็นที่พักส่วนตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โรงแรมแห่งนี้มีการออกแบบสไตล์อาร์ตเดโคและเรเนซองส์ ในปัจจุบันส่วนหนึ่งของวังนั้นเป็นโรงแรมที่บริหารโดยตาช โฮเทลส์ (Taj Hotels) เจ้าของโรงแรมทัชมาฮาลพาเลซในมุมไบ ส่วนของโรงแรมอุเมดภวันนี้ได้รับรางวัลโรงแรมที่ดีที่สุดในโลกสาขาตัวเลือกของนักท่องเที่ยว (World's best hotel at the Traveller's Choice Award) ของ TripAdvisor ในปี 2016
เที่ยง:
บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองอุไดปูร์ เวนิสแห่งตะวันออกในอินเดีย ระยะทางประมาณ 250 ก.ม.ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เมืองอุไดปูร์ (Udaipur) เมืองท่องเที่ยวที่รู้จักกันในชื่อ เมืองแห่งทะเลสาบ ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรเมวาร์ นครนี้ตั้งขึ้นโดยอุทัย สิงห์ที่ 2 ราชปุตแห่งราชวงศ์สิโสทิยา ตามหลังการย้ายเมืองหลวงจากจิตโตรครห์มาที่อุทัยปุระ หลังจิตโตรครห์ถูกยึดโดยจักรพรรดิอักบัร เมืองอุทัยปุระได้เป็นเมืองหลวงจนถึงปี 1818 เมื่อได้กลายเป็นรัฐมหาราชาภายใต้การปกครองของอังกฤษ
บ่าย
ระหว่างทางผ่าน (จ๊อดปูร์-รานัคปูร์ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.) เมืองรานัคปูร์ (Ranakpur) นำท่านชม วัดเชน (Chaturmukha Jain Temple) วัดของศาสนาเชน สร้างโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในประกอบด้วยห้องโถงกว่า 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดม และเสาถึง 1,144 ต้น เสาแต่ละต้นจะถูกแกะสลักอย่างงดงามมาก..เดินทางถึงอุไดปูร์ (รานัคปูร์-อุไดปูร์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) ถึงเมืองอุไดปูร์ นำท่านเดินทางไป ล่องเรือทะเลสาบพิโชลา (Pichola Lake) ทะเลสาบใจกลางเมืองอุไดปูร์ เป็นที่ตั้งของเกาะ 2 แห่ง โดยเกาะแรกตั้งอยู่กลางทะเลสาบ เป็นที่ตั้งของพระราชวังจักนิวาส ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโรงแรมเลกพาเลซ ส่วนอีกเกาะซึ่งมีขนาด เล็กกว่า ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือของพระราชวังจักมันเดียร์ ซึ่งปัจจุบันคือโรงแรมการ์เดนพาเลซ (Lake Garden Palace) ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่หรูหราอลังการของพระราชวังจากริมน้ำและทิวทัศน์รอบทะเลสาบยามแสงอาทิตย์สีทองสาดส่องมากระทบผิวน้ำ ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกสุดๆ
เย็น
บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ค่ำ
Radisson Udaipur หรือเทียบเท่า
DAY
6
สวนราชินี
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เช้า
นำท่านชม เมือง Udaipur เป็นเมืองทางใต้ของ Rajastan (แคว้นราชสถาน) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Pichola (พิโชล่า) ก่อตั้งขึ้นราวปี ค.ศ. 1568 (449 ปีก่อน) ตามพระประสงค์ของ Maharaja Udai Singh II (มหาราชา อุเด ซิงห์ ที่ 2) ทะเลสาบ Pichola ที่เป็นทำเลสุดโรแมนติกแห่ง Udaipur นี้ ไม่ใช่ทะเลสาบธรรมชาติ แต่เกิดจากการขุดเพื่อกักเก็บน้ำ เพื่อใช้บริโภคในเมือง!!! นำท่านชม วัดจักดิศ (Jagdish Temple) วัดฮินดูที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในเมือง อุไดปูร์ มีอายุเกือบ 400 ปี สร้างในปี ค.ศ. 1651 ในสมัยของมหารานาจากัต ซิงห์ที่ 2 (Maharana Jagat Singh II) โดยภายในมีหินสีดำแกะสลักเป็นรูปจากานนาทซึ่งเป็นภาคหนึ่งชองพระวิษณุ และยังมีจุดเด่นอยู่ตรงการแกะสลักผนังวัดเป็นรูปนางอัปสราและสัตว์ลักษณะต่างๆ ให้เวลา..ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองราชาสถาน ณ ถนน พระราชวัง นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวงอุไดปูร์ (Udaipur City Palace) ศูนย์กลางความวิจิตรอลังการ พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่เริ่มสร้างเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1559 โดย Maharana Udai Singh และได้ต่อเติมขยับขยายเรื่อยมาโดยมหาราชาผู้ครองนครในยุคต่อมา จนกลายเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในราชาสถานอย่างที่เห็นในทุกวันนี้
เที่ยง:
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชม สวนราชินี Saheliyon-ki-Bari สร้างโดย รานา ซันแกรม ซิงห์ (Rana Sangram Singh) สร้างให้กับพระชายาของพระองค์เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงในช่วงฤดูร้อน ชมสระบัวขนาดใหญ่ น้ำพุและดอกไม้ ต้นไม้นานาพันธุ์ในสวนแห่งนี้ นำท่านชม บาร์กอร์ กิ ฮาเวลี (Bagore Ki Haveli) สร้างขึ้นโดย Shri Amar Chand Badwa ซึ่งเป็นเจ้าเมืองในขณะนั้นในปี ค.ศ.1751 ภายหลังได้ตกเป็นของมหาราชา และถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลานาน ก่อนที่จะถูกบูรณะและปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อปี ค.ศ.1986 ภายจัดแสดงห้องต่างๆ ของเศรษฐีในยุคนั้นชม ท่าน้ำกานกัวร์ (Gangaur Ghat) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบพิโชล่า ได้เวลาอันสมควร..
16:30
นำท่านเดินทางไปสนามบินอุไดปูร์
18:30
ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยการบินอินดิโก เที่ยวบินที่ 6E 5336
20:10
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองเดลลี (New Delhi) ตรวจรับสัมภาระนำท่านเดินทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเพื่อเช็คอินเดินทางกลับกรุงเทพฯ (อิสระอาหารค่ำภายในสนามบินตามอัธยาศัย)
23:30
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 316
DAY
7
เดินทางกลับกรุงเทพฯ
05:25
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
ถาม : ซื้อทัวร์กับ 108ทริป มั่นใจได้แค่ไหน? มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยวหรือเปล่า?
ตอบ: เรา 108ทริป ทำงานด้านการท่องเที่ยวมานาน และมีชื่อเสียงในเรื่องนี้ เพราะเราซื่อสัตย์ บริการด้วยความจริงใจ และที่สำคัญเรามีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/07009 ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภท Outbound คือบริษัททัวร์ที่สามารถจัดทัวร์นำเที่ยวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ถาม : 108ทริป ทำแพ็คเกจทัวร์ขายเอง หรือส่งต่อให้บริษัททัวร์อื่น?
ตอบ : 108ทริป จัดทำแพ็คเกจทัวร์เองในนามกลาง 108ทริป พร้อมกันนี้ได้คัดเลือกบริษัททัวร์พันธมิตร ล้วนเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือทั้งด้านคุณภาพและการบริการ ให้ลูกค้าได้คัดสรรตามความต้องการ
ถาม : หากลูกค้าต้องจองแพ็กเกจทัวร์ สามารถจองได้ในช่องทางไหน?
ตอบ : ลูกค้าสามารถแจ้งจองแพ็กเกจทัวร์ที่ต้องการได้หลากหลายช่องทาง อาทิเช่น จองทางผ่านเวบไซต์ 108trip.com , โทรจองผ่าน Call Center 02-933-9933 , Email : [email protected], FB.me/108trip, Line : @108trip ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาในการจองทัวร์ พร้อมแจ้งการชำระเงินค่ามัดจำทัวร์
ถาม : 108ทริป มีช่องทางรับชำระเงินเงิน ทางไหนบ้าง?
ตอบ : ลูกค้าสามารถชำระเงินเงิน ได้หลากหลายช่องทาง อาทิเช่น 1. ชำระด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี บจก. ล๊อกอิน เวิลด์ไวด์ เลขบัญชี 630-2-12701-6 2. ชำระเงินสด / เช็คเงินสด ที่บจก. ล๊อกอิน เวิลด์ไวด์ 3. ชำระด้วยบัตรเครดิต ชำระตรงได้ที่บจก. ล๊อกอิน เวิลด์ไวด์ (โดยมีค่าธรรมเนียมการรับเงิน 3.5% ของค่าทัวร์)
ถาม : หลังจากลูกค้าโอนเงินมัดจำทัวร์แล้ว ต้องทำอย่างไรต่อ?
ตอบ : ลูกค้าต้องแจ้งให้ทางพนักงานขายทราบโดยเร็ว เพื่อรักษาสิทธิการสำรองที่นั่ง โดยสามารถแจ้งผ่านทาง Line : @108trip , Email : [email protected] , หรือทาง FAX : 02-933-9499 พร้อมแนบหลักฐานการโอนเงินประกอบมาด้วย
ถาม : ลูกค้าจะทราบได้อย่างไรว่าจองทัวร์สำเร็จ เรียบร้อยแล้ว?
ตอบ : หลังจากลูกค้าส่งหลักฐานการชำระเงินมัดจำทัวร์ เรียบร้อยแล้ว พนักงานจะติดต่อกลับเพื่อยืนยันการจองอีกครั้ง พร้อมส่งเอกสารข้อมูลในลำดับต่อไป
ถาม : หลังจากชำระเงินมัดจำ หรือชำระเงินเต็มจำนวนแล้ว จะยกเลิกได้ไหม?
ลูกค้าจะสามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนได้หรือไหมนั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการจอง สามารถสอบถามกับทางพนักงานขายที่บริการท่าน หรือดูรายละเอียดในเอกสารรายการทัวร์ แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถขอคืนเงินได้หลังจากได้ทำการจ่ายเงินแล้ว
หมายเหตุ:
1. เวลาที่ปรากฏในโปรแกรมกับการปฏิบัติจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขอให ้ท่านรับทราบคำแนะนำการ
เปลี่ยนแปลงการนัด หมายเวลาในการท ากิจกรรมอีกครั้งจากหัวหน้าทัวร์
2. บริษัทอาจท าการเปลี่ยนแปลงรายการ ได ้ตามความจำเป็ นและเหมาะสม แต่จะยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็ น
ส าคัญ ทั้งนี้ขนึ้ อยู่กับสภาวะของสายการบนิ โรงแรมที่พัก ภูมอิ ากาศ ภัยธรรมชาติการนัดหยุดงานฯลฯ ตลอดจน
สภาวะทาง เศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองภายใน อันเป็นสาเหตุให ้ต ้องเลื่อนการเดินทางหรือไม่สามารถจัด
พาคณะท่องเที่ยวได ้ตามรายการ
 

การชำระเงิน
งวดที่ 1 : สำรองทนี่ ง่ัจา่ ย 20,000 บาท / หลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอนหรือตาม เจ้าหน้าที่กำหนด
พร้อมมส่งสำเนาหน้าหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่
งวดที่2 : ชำระส่วนที่เหลือ30 วันล่วงงหน้าก่อนออกเดิน ทางหรือตามเจ้าหน้าที่กำหนด
อัตราค่าใช่จ่ายรวม:
 ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชัน้ ประหยัดสายการบิน ตามระบุในรายการ
 ค่าตั๋วภายในประเทศชัน้ ประหยัดสายการบินตาม ตามระบุในรายการ
 ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งและค่าประกันภัยสายการบิน
 ค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับหนังสือเดินทางไทย ยื่นแบบออนไลน์เท่านั้น (ไม่ต้องโชว์ตัว)
 ค่าที่พักระดับมาตรฐาน 4 ดาว (พักห้องละ 2 ท่าน)ตามระบุในรายการ
 ค่าเรือเหมาไปถ่าช้าง /ค่ารถโค้ชปรับอากาศตลอดการเดินทางตามระบุในรายการ
 ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ/ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามระบุในรายการ
 ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน
1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย 50,000 บาท (คุ้มครองผู้เอาประกันภัย อายุ
ระหว่าง 6-75 ปี ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือ ระหว่าง 76 ปีขึ้นไปจะมีเบี้ยประกันคุ้มครอง
50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ / ผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 85 ปี
ทางบรษริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ในการคุ้มครอง) 
อัตราค่าใช่จ่ายไม่รวม
 ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และค่าทำใบอนุญาติเข้าประเทศของคนต่างชาติหรือต่างด้าว
 ค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการและค่าใชจ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ค่าซักรดี ฯลฯ
 ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (ถ้ามี)
 ค่าวีซ่าค่าทำเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
 ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีออกใบกำกับภาษี)
 ค่าธรรมเนียมการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต VISA 3% AMEX 4%
 ค่าน้ำหนักเกินพิกัดตามสายการบินกำหนด
 ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,พนักงานขับรถ 35 USD ต่อท่าน ตลอดการเดินทาง
 ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรมและสนามบินซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวเอง
 ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจในบริการของท่าน
การให้ทิปตามธรรมเนียมทางบริษัทไม่ได้ผลประโยชนใ์ดๆทั้งสิ้นทั้งนี้ อยู่ที่การพิจรณาของท่านเพื่อให้
เป็ นกำลังใจให้กับไกด์ และคนขับรถ
ข้อแนะน าและแจ้งเพื่อทราบ
 สสำหรับห้องพัก 3 เตียงกรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น
กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให ้เปิดห้องงพัก 2 ห้องเพื่อสะดวกกับท่านมากว่า
 กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ปหรือตั๋วหมู่คณะ หากออกตั๋วแล้วไม่สามารถขอเงินคืนได ้และไม่สามารถเปลี่ยนวัน
เดินทางได ้
 กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 7 กก
กรณียกเลิก 1. หากมีการมัดจำทัวร์ละต้องการยกเลิกไมว่ากรณีใดๆก็ตามต้องชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท
2. ยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าธรรมเนียมท่านละ 2,000 บาท และใชจ้ายที่เกิดขึ้นจริง ่
เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน,วี่ซ่า,ค่าดำเนินการ (ถ้ามี),ค่าโรงแรม,ค่าตั๋วรถไฟ,หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดง
ให ้แก่ลูกค้าได ้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วงPeak seasonสายการบินให้มัดจำล่วงหน้า2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง)
3. แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 50% ของราคาทัวร์+ ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท
4. แจ้งยกเลกเดินทาง 0-14 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 100 % ของราคาทัวร์
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์หลังจากยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้วขอของสงวนสิทธิ์นการนำพาสปอรต์ ไปยกเลิก
ซา่ ในทกุ กรณีไมว่ า่ คา่ ใชจ่ า่ ยในการยนื่ วซี า่ จะรวมหรอื แยกจากรายการทัวรก์ ็ตาม
ยกเลิกช่วงเทศกาล
 ยกเลิกก่อนการเดินทาง สงกรานต์-ปีใหม่ 50 - 60 วัน ชำระค่าบริการท่านละ 2,000 บาท + และใช้จ่ายที่
เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำค่าที่พัก,วีซ่า ,ค่าดำเนินการ (ถ้ามี),ค่าโรงแรม,ค่าตั๋วรถไฟ,หรืออื่นๆ โดยจะมีราย
ละเอียดแสดงให ้แก่ลูกค้า ได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน
ก่อนออกเดินทาง)
 ยกเลิกก่อนการเดินทาง สงกรานต์-ปีใหม่ 0 - 40 วนั ช าระ 100% ของราคาทัวร์
ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
 กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only) *ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเอง
และมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่า
ใช่จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ดว้ยตัวเอง รวมถงึหากกรณีเที่ยวบนิ ของคณะใหญ่เกิดความล่าชา้หรอื ยกเลิก
เที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
เงื่อนไขการเดินทาง
1) บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้เมื่อเกิดเหตุสุวิสัยจนไม่ อาจแก้ไขได ้
2) บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมเดินทาง ไม่ถึง 10 ท่าน หรือตามที่บริษัทฯ กำหนด
3) รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต ้องได ้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากไดสำรองที่นั่งบนเครื่อง และ
โรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได ้ตามความเหมาะสม
4) บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ และอื่นๆที่อยู่
นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใชจ้่ายเพิมเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย,
การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้าหรือจากจากอุบัติเหตุต่างๆๆ
5) หากท่านยกเลิก ก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์ละจะไม่รับผิดชอบ
ค่าบริการที่ท่านไดชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
6) บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย
หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
7) ราคานี้คดิ ตามราคาตั๋วเครื่องบิดนี้ในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธ์ที่จะะปรับราคาตั๋ว
เครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว
8) กรณีเกิด ความผิดพลาดจากตัวแทนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนมีการยกเลิกล่าช้าเปลี่ยนแปลง การบริการ
จากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให ้บริการ บริษัทฯจะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการ
ทัวร์อื่นทดแทนให ้ แต่จะไม่คืนเงินให ้สาหรับค่าบริการนั้นๆ
9) มัคคุเทศก์พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น แทนบริษัทฯ นอกจากมี
เอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น
10) หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ร ะบุใุ นโปรแกรมได ้อันเนื่องมาจากธรรมชาติความล่าช้า และความผิดพลาด
จากทางสายการบิน จะไม่มีการคนื เงนิ ใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่น มาให้
โดยขอสงวนสิทธ์จัดหาโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ้
11) เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้วท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่งหรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ไม่อาจาเรียกร้องค่าบริการและเงินคืน ไมว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นนิ้
12) กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข ้า-ออกเมืองได ้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็
ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิใิ์นการ ไม่คืนคา่ ทัวรทั้งหมด
13) หากมีการยกเลิกการจองทัวร์หลังจากยื่่นวีซ่า เรียบร้อยแล้วบรษริษัทของสงวนสิทธิ์ในการนำพาสปอรต์ ไปยกเลิก วี
ซา่ ในทุกกรณีไมว่า ค่าใชจ่ า่ ยในการยื่น วีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวรก็ตาม
14) ทางบรษริษัทขอสงวนสทธิ์ราคานี้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะแบบ Join Tour เท่านั้น
กรณีต้องการตัดกรุ๊ปเหมาโปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง หากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ พระสงฆ์
โปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง

เอกสารในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอินเดียแบบ ออนไลน์ไม่ต้องมาแสดงตัว
1. รูปถ่ายสี(ถ่ายมาไม่เกิน 3 เดือน ขนาด 2×2 นิ้ว) 1 รูป พนื้ หลังสีข าว ไม่สวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ, ไมใ่ ส่
ชุดข้าราชการหรือเครื่องแบบใดๆ
2. สำ เนาหนังสือเดินทางมีอายุมากกวา่ 6 เดือน
3. สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
4. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด
5. (กรณี) เด็กอายุต่ำกว่า15 ปีใชสำเนาสูตรบัตรและบัตรประชาชน
6. (หากมี) สำเนาวีซ่าที่เคยเดินทางไปประเทศอินเดีย1 ชุด

แสดงข้อมูลราคาทัวร์

เลือกวันที่เดินทางและกดจอง ผู้ใหญ่ เด็ก  
(พักคู่) (พักเดียว) (พัก 3 คน) มีเตียง ไม่มีเตียง